วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปิดถนนมิตรภาพเบรก ผวจ.อุดรฯ รับใบสั่งปักหมุดเหมืองแร่โปแตซ

อุดรธานี - กลุ่มอนุรักษ์อุดรธานีปิดถนนมิตรภาพ
ยื่นคำขาดให้ศึกษาผลกระทบภาพเชิงยุทธศาสตร์ตามมติ ครม.ปี 49 จี้ยุติบทบาท
กรรมการชุด สมพร ใช้บางยาง
หวั่นใช้เป็นเครื่องมือลงปักหมุดเขตเหมืองโปแตซ

สืบ เนื่องจากเมื่อวันที่ 23
ก.ค.กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เข้าพบและเจรจากับ นายอำนาจ
ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
เพื่อเรียกร้องให้ยติบทบาทกรรมการแก้ไขปัญหาการดำเนินโครงการเหมืองแร่โปแตซ
จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมี นายสมพร ใช้บางยาง ประธาน
ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหา
และให้ความรู้การดำเนินการโครงการเหมืองแร่โปแตซ จังหวัดอุดรธานี
(ลงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2552)

แม้กลุ่มอนุรักษ์จะได้ยื่นหนังสือคัดค้านไปยัง นายสมพร
และกระทรวงอุตสาหกรรมด้วยก็ตาม โดยได้มีการแต่ตั้งอนุกรรมการ
ที่ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการทุกอำเภอในจังหวัดอุดรธานี
ให้มีอำนาจหน้าที่จัดการประชุมชี้แจงข้อมูลโครงการ
และกระบวนการขออนุญาตประทานบัตร ให้กับประชาชนในจังหวัดอุดรธานี
โดยมอบหมายให้ นายอำนาจ ผการัตน์ เป็นประธานอนุกรรมการดังกล่าว
แต่การเจรจาเมื่อวานนี้ล้มเหลว เมื่อ นายอำนาจ ผการัตน์
ยืนกรานจะดำเนินการประชุมต่อไป
เพราะเป็นคำสั่งของทางราชการตนต้องปฏิบัติตามไม่อาจละเว้นได้
เป็นเหตุให้กลุ่มอนุรักษ์ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งและเดินออกจากที่ประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (24 ก.ค.)
ตั้งแต่เช้าบริเวณศาลากลางจังหวัดอุดรธานี
ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ควบคุมสถานการณ์
เพราะคาดว่ากลุ่มอนุรักษ์จะเข้ามาชุมนุมประท้วงการประชุมของอนุกรรมการดัง
กล่าว แต่เมื่อเวลาตั้งแต่ประมาณ 08.00 น.สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯประมาณ 500
คน ก็ทยอยกันได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณถนนมิตรภาพสายอุดรฯ-ขอนแก่น
สามแยกเข้าสู่ อ.ประจักษ์ศิลปาคม พื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตซอุดรธานี

จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ค่อยๆ
เคลื่อนขบวนเข้ายึดปิดถนนมิตรภาพขาออกจากจังหวัดอุดรธานีไว้ได้ 1
ช่องทางจารจร ต่อมาได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมือง และ
สภ.ประจักษ์ศิปาคม กว่า 60 นาย รุดออกมาควบคุมสถานการณ์ไว้
ขณะที่บริเวณศาลากลางจังหวัดก็ได้เริ่มดำเนินการการประชุม
กลุ่มอนุรักษ์อุดรธานีพยายามที่จะปิดถนนเพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง
ทำให้เกิดเหตุชลมุนเล็กน้อยเมื่อผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกันแต่ไม่
มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

นาง มณี บุญรอด รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี
กล่าวว่าการที่ต้องชุมนุมปิดถนนในวันนี้ เพราะเกิดแรงกดดันทางการเมือง
และบริษัทที่เร่งรัดให้เกิดการปักหมุดเขตเหมืองแร่ให้ได้
และการประชุมของอนุกรรมการวางแผนลงพื้นที่ชี้แจงโครงการเหมืองแร่โปแตซ
ทั่วทั้งจังหวัดอุดรฯ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง
ความรุนแรงในพื้นที่ที่อีกครั้ง พร้อมยืนยันข้อเสนอเดิม คือ
ให้มีการศึกษาผลกระทบในภาพรวม
หรือการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ตามที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี
ที่เห็นพ้องกับมติคณะกรรมสิ่งแวดล้อม เมื่อปี 2649
ตลอดจนความเห็นขององค์กรอิสระต่างๆ ก็มีข้อเสนอเช่นกัน

"กรรมการชุดนี้เป็นใบสั่งของนักการเมืองฝ่ายบริษัท
คณะกรรมส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ เช่น นายอำเภอทุกอำเภอ ตำรวจ อัยการ
ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีข้อมูลเรื่องเหมืองแร่โปแตซ
อีกทั้งเป็นลูกน้องของผู้ว่าฯ เมื่อผู้ว่าฯ ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครกล้าหือ
และการชี้แจงทั่วทุกอำเภอ ก็ไม่สนว่าชาวบ้านจะเข้าใจหรือไม่
เพราะสุดท้ายเป้าหมาย อยู่ที่การรังวัด ปักหมุด เขตเหมือง
ตามขั้นตอนประทานบัตร ซึ่งก็จะเกิดปัญหาความขัดแย้ง
ตีกันในพื้นที่อีกเช่นเคย ดังนั้นกลุ่มอนุรักษ์ฯ
จึงขอให้ผู้ว่ายุติไว้ก่อนจนกว่าจะทำตามมติ ครม.เมื่อปี 2549 เสียก่อน"
นางมณีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12
กันยายน 2549 พ้องตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2549
ให้มีการดำเนินการใดการศึกษายุทธศาสตร์การจัดการแร่โปแตชของประเทศ
(Strategic Environmental Assessment ; SEA)
ก่อนที่จะมีการดำเนินการใดในพื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี
และโครงการเหมืองแร่โปแตชอื่นในภาคอีสาน
เพราะว่าขณะนี้มีการดำเนินการของเอกชนในการยื่นขอสำรวจและผลิตแร่โปแตชใน
พื้นที่ 6 จังหวัด คือ จ.ชัยภูมิ จ.สกลนคร จ.อุดรธานี จ.นครราชสีมา
จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม ทั้งสิ้น 7 โครงการรวมพื้นที่ ประมาณ 654,145
ไร่

การชุมนุมดำเนินไปจนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น.นายอำนาจ
ผการัตน์ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้เดินมายังที่ชุมนุมเพื่อขอเจรจาให้
ผู้ชุมนุมเปิดถนน
ขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังพยายามกดดันด้วยการปิดถนนเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางจารจรและ
มีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนฝนหยุดในเวลาประมาณ 13.00
น.กลุ่มผู้ชุมนุมจึงต้องยอมเจรจาโดยยื่นขอเสนอให้ยุติบทบาทกรรมการ
ชุดนายสมพร ใช้บางยาง และให้ศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์
ก่อนดำเนินการใดเกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่โปแตซ

ที่ สุด นายอำนาจ ผการัตน์
มีท่าทียอมรับข้อเสนอดังกล่าวและได้ทำบันทึกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้
3 ประการ คือ หนึ่ง ทำหนังสือแจ้งให้ นายสมพร ใช้บางยาง ประธานกรรมการ
ทราบว่า ต้องยุติการดำเนินการของคณะอนุกรรมการ
เพราะไม่เป็นที่ยอมรับและไม่อาจดำเนินการได้ตามเป้าหมาย สอง
เสนอให้คณะกรรมการพิจารณายุติบทบาทกรรมการชุดดังกล่าวไว้ก่อน และสาม
ให้มีการแต่งตั้งกรรมการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์(SEA) ตาม มติ
ครม.และมติ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เมื่อปี 2549

นายอำนาจ ผการัตน์ กล่าวกับที่นุมนุมว่า
ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้านไม่ใช่เพียงแต่
เรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว
แต่ต้องครอบคลุมไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาตามมาเหมืองโครงการอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ตนจะนำข้อเสนอของที่ชุมนุมในวันนี้ไปเสนอต่อประธานคณะกรรมการต่อไป

ที่ชุมนุมพอใจข้อตกลงดังกล่าวจึงได้ยอมเปิดเส้นทางจราจรและสลายการชุมนุมเมื่อเวลาประมาณ
14.00 น.

ด้าน นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์
ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวในภายหลังว่า
"ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีมีท่าทีแข็งกร้าว
และมุ่งหมายจะผลักดันให้เกิดการลงพื้นปักหมุดเขตเหมืองแร่ให้ได้ ซึ่งตลอด
8 ปีที่ผ่านมาก็เห็นมาแล้วว่าจะเป็นเหตุแห่งปัญหาการไม่ยอมรับและความขัดแย้ง
ตนเห็นว่า ต้องหาทางออกร่วมกันอย่างสร้างสรรค์
สร้างการเรียนรู้ที่แท้จริงให้สังคม
โดยเฉพาะเรื่องการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งปัจจุบันสำนักงานนโยบาย
และแผนคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สผ.)
ได้มีแนวทางในการประเมินออกมาแล้วการพัฒนาขบวนการนี้น่าจะเป็นแนวทางยกระดับ
การมีส่วนร่วมของประชาชน และมาตรฐานการดำเนินนโยบายสาธารณะในสังคมไทย"
นายสุวิทย์ กล่าว

ร่วงอีก 1 ชาวอุดรฯเหยื่อหวัดใหญ่ 2009

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2552 14:13 น.
อุดรธานี - ร่วงอีก 1 ชาวอุดรธานี เหยื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 ขณะที่ยอดสะสมผู้ป่วยพุ่งสูงถึง 521 ราย หายแล้ว 109 ราย
อยู่ระหว่างดูแลรักษาใกล้ชิดถึง 166 ราย โดยพื้นที่ปลอดผู้ป่วยติดเชื้อมี
3 อำเภอ คือ อ.นายูง-กู่แก้ว-ประจักษ์ศิลปาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่ 2009 ที่
จ.อุดรธานี ว่า ในขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รายแรกเป็นเพศชายอายุ
55 ปี เป็นคนอำเภอกุมภวาปี มีโรคประจำตัวเบาหวานกับสะเก็ดเงิน
รายที่สองเป็นเพศชายอายุ 29 ปี เป็นคนอำเภอไชยวาน
ซึ่งเสียชีวิตโดยมีโรคแทรกซ้อน คือ ปอดแตก

นายสัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุจังหวัดอุดรธานี
เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคในจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2552
ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 เวลา 24.00 น.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี
มีสรุปยอดผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)
มีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังดำเนินการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 521 ราย
ตัดออกจากการเฝ้าระวัง ตรวจไม่พบเชื้อ 250 ราย รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
11 ราย ผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 21 ก.ค.52 จำนวน 18 ราย ผู้ป่วยยืนยัน
วันที่ 22 ก.ค.2552 จำนวน 12 ราย

ขณะที่มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ วันที่ 23 ก.ค.2552 จำนวน 16 ราย
มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) สะสม 275 ราย
แยกเป็นหายเป็นปกติ หรือพ้นระยะเฝ้าระวัง 109 ราย
อยู่ในระหว่างเฝ้าระวังดูแลรักษา 166 ราย คือ รักษาที่โรงพยาบาล 29 ราย
อาการทั่วไปดี (รพ.อุดรธานี 4 ราย, รพ.ชุมชน 6 ราย, รพ.เอกชน 18 ราย)
รักษาเฝ้าระวังที่บ้าน 137 ราย อาการทั่วไปดี

โดย สรุปแล้วจังหวัดอุดรธานี มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน
อยู่ระหว่างการรักษาและเฝ้าระวัง 166 ราย
มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)
เสียชีวิต จำนวน 2 ราย

ส่วนอำเภอที่ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 คือ อ.นายูง, กู่แก้ว และประจักษ์ศิลปาคม
และอำเภอที่มีผู้ป่วยพ้นระยะเฝ้าระวัง คือ อ.วังสามหมอ อำเภอที่เฝ้าระวัง
ครบรอบ 7 วัน ไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ คือ สร้างคอม, หนองหาน, ทุ่งฝน,
โนนสะอาด และศรีธาตุ ส่วนอำเภออื่นๆ อีก 11 อำเภอยังไม่พ้นระยะเฝ้าระวัง

ทำนาข้าวในโรงเรียนปลุกสำนึกเด็กรู้คุณข้าว-อาชีพทำนา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2552 12:47 น.
อุดรธานี - ศูนย์ เมล็ดพันธุ์ข้าวอุดรฯ
ร่วมโรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ 2 จัดโครงการทำนาข้าวในโรงเรียน
หวังปลูกฝังให้เยาวชนรู้คุณค่าของข้าวและอาชีพทำนา
ภาคภูมิใจในวิถีอาชีพของบรรพบุรุษ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (24 ก.ค.)
ที่ทุ่งนาโรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ 2 อ.เมืองอุดรธานี
นายทรงศักดิ์ อัมรัตน์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1
เป็นประธานเปิดโครงการทำนาข้าวโรงเรียน ตามนโยบาย ปลูกข้าว ปลูกใจ
เด็กไทยรักข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอุดรธานี
ร่วมกับโรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ 2 จัดขึ้น

นายดอม พรมทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ 2
กล่าวว่า โครงการทำนาข้าวโรงเรียน
เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนและชุมชนในท้องถิ่น
ซึ่งได้ร่วมกับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอุดรธานี
ดำเนินการติดต่อกันมาเป็นเวลา 5 ปี
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังความรู้ด้านการทำนาข้าวกับวิถีชีวิตของคนไทย

รวมทั้งวัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น
โดยการฝึกปฏิบัติการทำนาด้วยตนเอง เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้สึก
ให้รู้ถึงความเพียรพยายาม วิริยะ อุตสาหะของชาวนา
ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้าวและชาวนา
เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับ
การทำนาข้าวและเกิดความประทับใจ ภูมิใจในวิถีชีวิตของคนไทยและตนเอง

อีกทั้งยังทำให้เด็กนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาตนเอง
และดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงได้

ทบ.หนองสำโรงรณรงค์ จนท.ผู้นำชุมชนงดเหล้า-บุหรี่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2552 16:44 น.
อุดรธานี - เทศบาลหนองสำโรง อ.เมืองอุดรฯร่วมรณรงค์งดเหล้า-บุหรี่
อบรมเข้มพนักงานเจ้าหน้าที่-อสม-ผู้นำชุมชนหวังเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่
เผยผู้เข้าอบรม124 คนจาก 182
คนยอมรับอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุรี่

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมนภาลัย
อ.เมืองอุดรธานี เทศบาลเมืองหนองสำโรง ได้นำพนักงาน ลูกจ้าง ประธานชุมชน
อสม.จำนวน 182 คน
เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ
สูบบุหรี่ ปี 2552 โดยมีวิทยากรจากสำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี
มาให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

ซึ่งพนักงานและเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองหนองสำโรง
มีจำนวนทั้งสิ้น 299 คน พบว่า มีกลุ่มเสี่ยง จำนวน 124 คน
แยกเป็นผู้สูบบุหรี่ จำนวน 14 คน คิดเป็น 4.68%
ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 35 คน คิดเป็น 11.70%
ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบหรี่ จำนวน 75 คน คิดเป็น 25.08%
และในกลุ่มประธานชุมชน ประธาน อสม.พบว่ามีกลุ่มเสี่ยง จำนวน 58 คน
รวมทั้งสิ้น 182 คน

ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่างๆ มากกว่า
25 โรค อันเกิดจากพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ โรคตับแข็ง
มะเร็งตับ และจากผู้สูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ อาทิ โรคถุงลมโป่งพอง
และมะเร็งปอด จากเหตุผลดังกล่าว ศูนย์บริการสาธารณสุข
เทศบาลเมืองหนองสำโรง
และกองทุนระบบหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นเทศบาลเมืองหนองสำโรง
ได้เล็งเห็นความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยง

จึง ได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น
เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เกิดการดูแลใส่ใจกับสุขภาพตนเอง คนรอบข้าง
อันจะส่งผลถึงสุขภาวะทางกายที่ดีตลอดจนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีก

โดยการอบรมผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องมีคะแนนผ่านเกณฑ์การทดสอบ
Pre-Post Test ร้อยละ 80 ขึ้นไป และร้อยละ 60
ของกลุ่มเสี่ยงที่ได้ทำสัญญาใจ ทำความดีถวายในหลวง ลด ละ เลิก
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ซึ่งจะทำการประเมินผล 3 เดือน
หากผู้เข้ารับการอบรมผ่านการประเมิน ก็จะได้รับใบประกาศเกียรติคุณ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เปิดแล้วจุดบริการน้ำประปาดื่มได้แห่งที่ 122 บ้านผือ

อุดรธานี - การประปาส่วนภูมิภาค ร่วมกับกรมอานามัย และจังหวัดอุดรธานี
จัดพิธีประกาศรับรองให้พื้นที่ในเขตบริการน้ำประปาของหน่วยบริการกุดจับ
สำนักงานประปาบ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้แห่งที่ 122

วันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 10.00
น.ที่บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
นายทศพล ทิพรส รองผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เป็นประธานเปิด
โครงการน้ำประปาดื่มได้ โดยมีนายกฤษเพชร ศรีปาน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และนายศากุล เอี่ยมศิลา
ที่ปรึกษากรมอานามัย
ร่วมพิธีเปิดโครงการน้ำประปาดื่มได้ของการประปาส่วนภูมิภาค
เป็นโครงการที่เกิดขึ้นตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย
เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
ให้ได้บริโภคน้ำประปาที่มีคุณภาพ
ได้มาตรฐานน้ำดื่มตามเกณฑ์ขององค์กรอานามัยโลก

ปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาค
มีสำนักงานประปาที่ได้รับการประกาศรับรองให้เป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้
จากกรมอานามัยแล้วทั้งสิ้น 121 แห่ง และหน่วยบริการกุดจับ
สำนักงานประปาบ้านผือนี้เป็นแห่งที่ 122
ที่ได้รับรองว่าเป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้

สำหรับพื้นที่เขตเทศบาลตำบลกุดจับและตำบลเมืองเพีย
นี้ประชาชนบริโภคน้ำฝน น้ำบ่อและน้ำบรรจุขวดเป็นหลัก
ซึงการบริโภคน้ำฝนและน้ำบ่อถึงแม้ว่าจะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ก็มีความเสี่ยง
สูงที่จะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมา การประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้
ในพื้นที่อำเภอกุดจับ ของหน่วยบริการกุดจับ ส นักงานประปาบ้านผือ
ในวันนี้

นอกจากประชาชนผู้ใช้น้ำจะได้บริโภคน้ำประปาที่ผ่านการรับรองจากกรมอา
นามัยว่าสะอาดและปลอดภัยแล้ว ยังสามารถดื่มได้โดยตรงจากก๊อกอีกด้วย
และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดจากท้องตลาด
ซึ่งมีราคาแพงกว่าน้ำประปากว่าหลายเท่าตัว

นายทศพล ทิพรส รองผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า
โครงการน้ำประปาดื่มได้นี้ ภายหลังจากการเปิดโครงการดังกล่าว
การประปาส่วนภูมิภาค
ยังคงตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้มาตราฐานอยู้ตลอดเวลาเพื่อให้น้ำประปาจากก๊อกใน
บ้านของทุกคน สามารถดื่มได้เช่นเดียวกับน้ำที่อยู่ในท่อส่งน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค

ทั้งนี้ ทางหน่วยบริการน้ำประปากุดจับ สำนักงานประปาบ้านผือ
ได้ติดตั้งจุกบริการน้ำดื่มฟรีไว้ให้บริการประชาชน จำนวน 2 จุด ได้แก่
บริเวณหน้าสาธารณสุขอำเภอกุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
และบริเวณหน้าโรงกรองน้ำหน่วยบริการกุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082277

โชคดี! ชาวอุดรฯ ทันได้ชมสุริยุปราคา

อุดรธานี - มรภ.อุดรฯ จัดกิจกรรมชมปรากฏการณ์การเกิดสุริยุปราคา
พร้อมให้ความรู้ถึงสาเหตุการเกิดสุริยุปราคา
ด้านประชาชนอ้างเป็นลางบอกเหตุร้ายจะเกิดกับบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ประมาณ 07.10-09.00 น.วันนี้ (22
ก.ค.) เป็นต้นมา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ได้มีการจัดกิจกรรมชมปรากฏการณ์สุริยุปราคา

การเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเหนือท้องฟ้าของ จ.อุดรธานีนั้น
สภาพอากาศในช่วงเช้าเป็นใจเป็นอย่างดีสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
กระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น.พบว่า
สภาพอากาศเริ่มมีเมฆบดบังบางทำให้การดูการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา
ดูได้อย่างไม่ต่อเนื่อง

โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ได้จัดสถานที่ในการส่องกล้องดูที่บริเวณสนามบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย
ซึ่งได้เตรียมกล้องโทรทัศน์จำนวน 3 ตัว
แว่นสำหรับดูสุริยุปราคาจำนวนหนึ่ง
ในระหว่างการดูการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคานั้น
ทางมหาวิทยาลัยได้มีการอธิบายและให้ความรู้ตามหลักวิทยาศาสตร์
เกี่ยวกับเรื่องการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาไปด้วย

ในขณะที่ประชาชนที่ทราบข่าวการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา
ต่างพากันออกมายืนดูการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่หน้าบ้านตนเอง
ต่างคนก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา
บางก็ว่าจะเป็นช่วงวิกฤตแก่บ้านเมือง อันเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082819

ชาวอุดรฯ ร่วมปลูกต้นตะกู 5 แสนต้น เฉลิมพระเกียรติฯ ในนิคมสร้างตนเองห้วยหลวง

อุดรธานี - ชาว จ.อุดรธานี พร้อมใจปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 76 พรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บนพื้นที่ 150 ไร่ด้วยต้นตะกู
ร่วม 5 แสนต้น ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง
หวังฟื้นป่าช่วยอนุรักษ์ดิน น้ำ และ สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
เป็นแหล่งอาหารสัตว์นานาชนิด

วันนี้ (23 ก.ค.) เวลา 10.00
น.ที่บริเวณพื้นที่นิคมสร้างตนเองห้วยหลวง ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้นำหน่วยงานภาครัฐ
เอกชน และประชาชนจำนวน 6,662 คน พร้อมใจการกันปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 76
พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมี ม.ร.ว.สมลาภ
กิติยากร ประธานมูลนิธิดินน้ำใส แห่งประเทศไทย ร่วมปลูกป่าในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมูลนิธิดินดี น้ำใส แห่งประเทศไทย
ได้มอบกล้าไม้มหาเศรษฐี (ต้นตะกู) ให้จังหวัดอุดรธานี จำนวน 500,000 ต้น
เพื่อดำเนินการปลูกในหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนเพื่อวัตถุประสงค์ในการ
อนุรักษ์ ดิน น้ำ ป่า และสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเป็นทรัพย์ยากรอันสำคัญของประเทศชาติและมนุษย์

ในการปลูกป่าในพื้นที่จำนวน 150 ไร่ครั้งนี้ ได้นำต้นมหาเศรษฐี
หรือต้นตะกู จำนวน 500,000 ต้น
ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็วเป็นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 16.77
เมตร ผลัดใบในฤดูแล้ง
จะเจริญเติบในดินตะกอนที่ทับถมผิวหน้าดินลึกระบายน้ำดี
พร้อมทั้งนำพันธ์ปลานิลจำนวน1,000 ตัว มาปล่อยในแหล่งน้ำ

การปลูกป่าครั้งนี้จะเป็นการอนุรักษ์ดิน น้ำ
และสิ่งแวดล้อมธรรมชาติในระบบนิเวศ
อันเป็นทรัพย์กรที่สำคัญของมวลมนุษยชาติ อีกทั้งเป็นการถวายเป็นพระราชกุล
เนื่องในวโรกาสมหามงคลพระชนมายุครบ 76 พรรษา
ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนนีนาถ
ทั้งยังเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้
ให้คนไทยทุกคนได้ตระหนักในความสำคัญของป่าไม้ ว่ามีประโยชน์นานาประการ

นอกเหนือจากจะช่วยขจัดอากาศที่เป็นพิษ
เป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสัตว์
และเป็นคลังแห่งยารักษาโรคหลายพันหมื่นชนิดซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตน้ำให้มนุษย์
ชาติต่อไป

หลังจากร่วมกันปลูกป่าแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานียังทำการมอบกล้าไม้มหาเศรษฐี หรือต้นตะกู
ให้แก่หน่วยงานที่เข้าร่วมปลูกป่าและตัวแทนชาวบ้าน
เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ใกล้ป่าใกล้หมู่บ้านเพื่อให้ดินดำน้ำชุ่มต่อผืนแผ่น
ดินไทยต่อไป พร้อมกันนี้ ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร ประธานมูลนิธิดินดีน้ำใส
แห่งประเทศไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
ยังได้ทำพิธีปล่อยพันธุ์ปลานิลจำนวน 1,000 ตัวอีกด้วย


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000083316